พังงา – ดับ 4 รถกระบะแหกโค้งบางเสียดพุ่งข้ามเลนชนจักรยนยนต์และรถทัวร์ชาวจีน

พังงา – ดับ 4 รถกระบะแหกโค้งบางเสียดพุ่งข้ามเลนชนจักรยนยนต์และรถทัวร์ชาวจีน

ภาพวงจรปิดของ นายพงษ์วัฒน์ บุญโกย กำนันตำบลบางเตย อ.เมืองพังงา สามารถบันทึกได้ เมื่อเวลาประมาณ 09.10 น. วันที่ 20 พ.ค.62 เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุที่บริเวณโค้งบางเสียด ถนนสายพังงา-ทับปุด หมู่ 4 ต.บางเตย อ.เมือง จ.พังงา จึงรุดที่เกิดเหตุพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ปภ.พังงา พยาบาล รพ.พังงา ตำรวจ สภ.เมืองพังงา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กู้ภัยวัดเก่าเจริญธรรม กู้ภัยมัสยิดบ้านนา กู้ภัยทับปุด ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะโค้งอันตรายมีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง พบ รถกระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ สี่ประตู สีบรอนเงิน ทะเบียน บบ 6934 กระบี่ มีผู้โดยสารมา 12 คน เดินทางจาก ตะกั่วป่า เข้า ทับปุด ข้ามเกาะกลางถนน เจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ตัดถ่างเข้าช่วยเหลือ

ต่อมาทราบว่า รถกระบะคันดังกล่าว เดินทางมาจาก กระบี่ มุ่งหน้าเข้าจังหวัดภูเก็ต 

ขับมาขี่ด้วยความเร็วและแหกโค้งชนกับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 125 ไอ ทะเบียน 1 กค 757 พังงา และชนกับรถทัวร์เบนซ์ สีขาว ทะเบียน 33-2604 กทม. ที่มีผู้โดยสารชาวจีน 13 คน ไกด์ 2 คน คนขับ 1 คน (ทั้งหมดในรถทัวร์ไม่ได้รับบาดเจ็บ) เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จำนวน 1 ราย คือนายนิกร ขาวแขก อายุ 42 ปี จ.กระบี่ ต่อมามีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมขณะแพทย์ทำการช่วยเหลืออีกสามราย คือ น.ส.สายใจ บุตรเด็น อายุ 25 ปี และนายเหม หญ้าปรัง อายุ 51 ปี ที่นั่งมากับรถกระบะ  อีกรายคือนางเจ๊ะอ้า ยมโดย อายุ 57 ปี ที่นั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์

ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่านาจะมาจากยางล้อรถกระบะแตกทำให้เสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางถนนเข้าชนรถจักรยานยนต์ และรถทัวร์นักท่องเที่ยวชาวจีน ดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่เร่งทำการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

อาถรรพ์ ลุงวัย 50 จมน้ำดับ หลังลงจับปลาในสระวัด เขตอภัยทาน เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 20 พ.ค.62 ร.ต.อ.นิวัติ ทิมเกตุ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองกระบี่ รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคนจมน้ำบริเวณสระ น้ำวัดแก้วโกรวาราม ใกล้กับตลาดสดมหาราช ต.ปากน้ำ เขตเทศบาลเมืองกระบี่ จึงได้ประสานกู้ภัยมูลนิธิประชาสันติสุข เข้าร่วมตรวจสอบ และลงค้นหา

ที่เกิดเหตุ​เป็นน้ำสระน้ำขนาดใหญ่ กว้าง 50 เมตร ยาว 70 เมตร ลึก 6 เมตร มีไทยมุงกำลังยืนมุงดูคนจมน้ำเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ใช้เวลาค้นหาประมาณ 1 ชั่วโมง พบกลายเปผ็นศพ ในสภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงขาสั่นสีเทา เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันนำศพขึ้นมายังบนฝั่ง ทราบชื่อนายโยธิน บุญคง อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 161/41. ถ.กระบี่ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ ตรวจสอบบริเวญขอบสระพบรถจักรยานยต์ของผู้ตาย ไม่ติแผ่นป้ายทะเบียน ยี่ห้อยามาฮา สีฟ้า คาดว่าเป็นของผู้ตายจอดอยู่ 1 คัน

สอบถามนายสุรชัย ขอสวัสดิ์ อายุ 46 ปี คนที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ผู้ตายได่้นำแหมาทอดจับปลา ภายในสระน้ำวัดแก้ว หรือสวนพุทธธรรม ของวัด ขณะที่ทอดแห แหเกิดไปเกียวติดกับไม้ใต้น้ำ ดึงไม่ขึ้น ผู้ตายก็ได้ดำน้ำลงไปปลด แล้วก็ไม่ผุดมาอีกเลย จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าค้นหา และพบเป็นศพในที่สุด เจ้าหน้าที่จึงได้มอบศพให้กับทางญาติกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า ขณะที่ผู้ตายดำน้ำลงไปปลดแหที่ติดอยู่ใต้น้ำ เกิดหมดสติ จมน้ำในที่สุด

ประธานอบต.ท่าธงถูกยิงดับ คาดปมส่วนตัว-การเมืองท้องถิ่น

เมื่อค่ำวานนี้ (22 พ.ค.) เกิดเหตุคนร้ายยิง นายสะมะแอ สะมะ อายุ 55 ปี ประธานอบต.ท่าธง จ.ยะลา เสียชีวิต บริเวณเชิงสะพานโต๊ะนูวอ ต.ท่าธง หลังนายสะมะแอกลับจากไปเยี่ยมแม่เพื่อร่วมพิธีละศีลอดในเดือนรอมฎอน

โดยขณะเกิดเหตุนายสะมะแอได้ขับรถจักรยานยนต์ชอปเปอร์สีดำ และมีคนร้ายซึ่งคาดว่าไม่ตำ่กว่า 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตาม พร้อมเรียกให้หยุด และทำทีจะพูดคุยด้วย จังหวะที่นายสะมะแอเผลอ คนร้ายได้ใช้ปืนจ่อยิงหน้าอกนายสะมะแอ 1 นัดจนล้มแน่นิ่งไป หลังจากนั้นคนร้ายก็ได้ขี่รถหลบหนีจากที่เกิดเหตุ

โดยขณะที่ตำรวจมาพบนายสะมะแอยังไม่เสียชีวิต แต่มาเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลรามัน ในที่เกิดเหตุตำรวจพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 1 ปลอก และจากการสอบสวนทราบว่านายสะมะแอเพิ่งไปเยี่ยมนางแมะวอผู้เป็นแม่ที่บ้านจารังตาดง ส่วนสาเหตุตำรวจคาดว่าเป็นไปได้สองกรณีคือความขัดแย้งส่วนตัวและทางการเมืองหรือการสร้างสถานการณ์ซึ่งจะมีการสืบสวนกันต่อไป

รถต้องสงสัยขับหนีตร.มหาสารคามจนคว่ำดับ ตรวจพบยาบ้า 6,800 เม็ด เมื่อเวลา 01.30 ของวันนี้ (23 พ.ค.) เกิดเหตุรถต้องสงสัยขนส่งยาบ้าทะเบียนมุกดาหารขับฝ่าด่านตำรวจทางหลวงจ.มหาสารคาม จากถนนสายวาปีปทุม-พยัคฆภูมิพิสัยเข้าไปวนในตัวเมืองมหาสารคาม

ต่อมาตำรวจพบว่ารถคันดังกล่าวที่ขับโดยชายอายุ 18 ปีจากจ.ยโสธร พลิกคว่ำบริเวณถนนมหาสารคาม-กมลาไสย ทางออกไปจ.กาฬสินธุ์ ที่กำลังทำการก่อสร้างขยายเป็นสี่เลน และเป็นดินลูกรัง-ต่างระดับ คาดว่าเป็นเพราะไม่ชินทางและขับเร็ว บวกกับทัศนวิสัยที่มืด ภายในรถพบยาบ้า 6,800 เม็ด และคนขับที่บาดเจ็บสาหัส ตำรวจเร่งนำส่งโรงพยาบาล แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดยาบ้าทั้งหมดไปไว้ที่สภ.เมืองมหาสารคาม เพื่อขยายผลต่อไป โดยก่อนเกิดเหตุ มีการแจ้งว่าจะมีการลำเลียงยาบ้ามาจากทางจ.มุกดาหารแล้วจะผ่านเส้นทางดังกล่าวเพื่อเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจจึงตั้งด่านสกัด พอเวลาประมาณเที่ยงคืนรถคันดังกล่าวก็ขับมาพร้อมรถจักรยานยนต์นำหน้า 2 คัน พอเห็นด่านก็กลับรถหนี ตำรวจจึงได้นำรถทางหลวงตามและวิทยุขอให้สภ.มหาสารคามช่วยสกัดรถต้องสงสัย ก่อนจะเกิดอุบัติหตุดังกล่าว