โซเซียลแชร์ว่อน มือดีขึงเส้นลวดมาขวางถนน โชคดี รถตุ๊กๆขับชนขาดก่อน

โซเซียลแชร์ว่อน มือดีขึงเส้นลวดมาขวางถนน โชคดี รถตุ๊กๆขับชนขาดก่อน

วันนี้ (21พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ใช้เฟชบุครายหนึ่งไปยังกลุ่มเสียงประชาชนคนภูเก็ต “กระบอกเสียงคนภูเก็ต” มีการโพสต์ภาพนิ่งเป็นเส้นเอ็นสีขาวจำนวน 1 ขดวางอยู่ริมถนน พร้อมระบุข้อความว่า ใครทำชาตชั่วและเลวมากจริงๆ ขึงลวดขวางถนนระวังด้วยเส้นทางโรงแรมแห่งหนึ่ง ม.6 ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ต้องจับตัวให้ได้ หลังจากที่มีการโพสต์มีการแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวน ซึ่งมีอยู่ 1 คนระบุว่า ตั้งแต่หัวค่ำเมื่อวานตอน2ทุ่มดีที่รถตุ๊กๆชนขาดก่อน และส่วนใหญ่บอกว่า ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวให้

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.สมคิด บุญรัตน์ ผกก.สภ.กมลา 

กล่าวว่า ตนได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจากโรงแรมดังกล่าว ว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 20 พ.ค.62 ได้มีคนเอาเส้นเอ็นตกปลาไปขึงขว้างถนนโดยได้ผูกกับเสาไฟฟ้าระหว่างเสาไฟฟ้า 2 ต้น จากนั้นได้มีรถตุ๊กๆ ขับผ่านแล้วชนขาด ตนจึงได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจลงพื้นที่ตรวจสอบทันที และทราบว่า เส้นทางดังกล่าวเป็นทางค่อนข้างเปลี่ยวไม่ค่อยมีใครสัญจรผ่านไปมา “โดยในช่วงเช้าของวันนี้ ได้สั่งการให้ รองผกก.ป.สภ.กมลา พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.กมลา ลงพื้นที่หาข้อมูลอีกครั้ง พร้อมให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อหาเบาะแสของคนที่เอามาขึง คาดว่าจะเป็นความคึกคะนองคนใดคนหนึ่ง และจะเร่งหาตัวมาสอบปากคำให้โดยเร็วที่สุด” พ.ต.อ.สมคิดกล่าวในที่สุด

ทะลุโรงเรียน! กระบะหักหลบจยย.ตัดหน้า เสียหลักพุ่งชนร้านค้า ลาก 2 ยายทะลุกำแพง วันนี้ (21 พ.ค.) เกิดอุบัติเหตุรถยนต์พุ่งชนอาคารโรงเรียนบ้านปากดุก ต.ปากดุก อ.หล่มสัก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มสัก จึงเร่งประสานอาสามูลนิธิร่วมกตัญญูหล่มสักเข้ตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ยี่ห้อนิสสัน สีบรอนซ์ทอง อยู่ในสภาพรถด้านหน้าพังเสียหาย และพบผู้บาดเจ็บอาการสาหัส 2 รายคือ 1.นางเสงี่ยม พลจันทร์ อายุ 59 ปี และ 2.นางอุดร พิมพ์ดี อายุ 72 ปี ชาว ต.ปากดุก จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลหล่มสัก แต่นางอุดรทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา

คนขับเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถคันดังกล่าวมาตามปกติ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีรถจักรยานยนต์ตัดหน้า ตนตกใจจึงหักหลบและพุ่งชนร้านค้าและทะลุไปในห้องเรียน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของตัวคนขับแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จะได้แจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับคนขับต่อไป

เมืองคอน ชนสนั่น 7 คันซ้อน ตาย 1 เจ็บ 9

เมื่อเช้าวันนี้ (21 พ.ค.) เกิดเหตุรถชน 7 คันซ้อนบนถนนสายนครศรีฯ-ปากพนัง หน้าสำนักงานธนาคารออมสิน ภาค 17 อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายและผู้บาดเจ็บอีก 9 ราย โดยทั้งหมดนี้ เป็นรถจักรยานยนต์ 2 คัน เป็นรถยนต์ 5 คัน โดยหนึ่งในนี้เป็นรถกระบะบรรทุกปลาดุกหนัก 1.5 ตัน ทำให้ปลาดุกตกกระจายเกลื่อนถนน

ในที่เกิดเหตุมีรถชนอัดก็อปปี้กัน ประกอบด้วยรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีเขียวที่บรรทุกปลาดุกขนาด 1.5 ตัน, รถกระบะโตโยต้าไฮลักซ์ สีขาว, รถกระบะมาสด้า สีขาว, รถยนต์อีซูซุ สีบรอนซ์เงินซึ่งเป็นรถของธนาคารออมสิน และรถยนต์ฮอนด้าซิตี้ สีขาว พร้อมด้วยรถจักรยานยนต์อาร์ยูก้า และ รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำ

เจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิต 1 รายคือนางเพ็ญนภา บุญรอดชู อายุ 43 ปี ใต้รถกระบะคันหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ สภาพศพแขนขาและคอหักและศีรษะแตก ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 9 รายเจ้าหน้าที่ได้ให้ความช่วยเหลือและส่งโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชแล้ว

จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ระบุว่า ขณะเกิดเหตุรถกระบะ 4 คันดังกล่าวเสียหลักชนกันอย่างแรงและรถคันหนึ่งได้พุ่งชนรถจักรยานยนต์ของนางเพ็ญนภา ขณะที่นางเพ็ญนภากำลังจะเลี้ยวเข้าไปในธนาคารออมสิน และยังเสียหลักไปชนรถยนต์อีกคันที่จอดอยู่หน้าธนาคาร แต่ยังไม่มีการระบุสาเหตุที่ชัดเจนของอุบัติเหตุในครั้งนี้ และจะต้องมีการสอบปากคำผู้บาดเจ็บทั้ง 9 รายก่อน พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดของธนาคารด้วย

รวบสองสามเณรคากุฏิ พบฉี่ม่วงพร้อมอุปกรณ์การเสพเพียบ หลังถูกร้องพฤติกรรมมั่วสุมยา วานนนี้เจ้าหน้าที่ทหารชุดรักษาความสงบเรียบร้อย กองพลทหารราบที่ 11 จังหวัดฉะเชิงเทรา บุกเข้ารวบสามเณร 2 รูป คากุฏิ หลังได้รับการร้องเรียนจากพระลูกวัดและชาวบ้าน ว่าสามเณร 2 รูป มีพฤติกรรมก้าวร้าว ใช้กิริยาวาจาหยาบคาย และมีพฤติกรรมมั่วสุมเสพยาเสพติด

เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ พบเณรทั้ง 2 รูปและอุปกรณ์การเสพยาไอซ์และยาบ้าอีกจำนวนหนึ่ง โดยสามเณรทั้งสองรูปทราบชื่อต่อมาคือสามเณรภพ อายุ 28 ปี และสามเณรพล อายุ 19 ปี

โดยขณะนั้นสามเณรพลที่นั่งดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้ใช้วาจาและถ้อยคำที่หยาบคายด่าทอเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานอยู่ตลอดเวลา และเมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจปัสสาวะสามเณรทั้ง 2 รูป กับถูกบ่ายเบี่ยงเพื่อจะไม่ให้มีการตรวจ แต่สุดท้ายสามเณรภพก็ยอมให้ตรวจและพบสารเสพติดในร่างกาย แต่ทั้ง 2 ยังให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งปัสสาวะไปตรวจแยกสารที่โรงพยาบาลพุทธโสธรด้วย เพื่อเป็นการยืนยันข้อมูลตามที่ปรากฏ ซึ่งผลสรุปออกมา พบว่าสามเณรทั้ง 2 รูป มีสารเสพติดในร่างกายจริง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้กระทำการสึกสามเณรทั้ง 2 รูป จากการเป็นเณร เพื่อส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

credit : cheapforoakleysunglasses.com chicagowalks.org chucklebrain.com cobayesdeloasis.com coloquiosdelapuntadelamona.org commerciallighting.org copycristian.org divasdelblues.com drbucklew.com